ความรู้เป็นหนึ่งในทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดขององค์กรไอที และการแบ่งปันความรู้แบบเปิดสามารถช่วยให้ทีมของคุณอยู่ในหน้าเดียวกัน

ทำงานร่วมกัน และทำการตัดสินใจได้ดีขึ้นและเร็วขึ้น การแบ่งปันแบบเปิดทำให้ความรู้มีพลังมากขึ้น ทำให้ข้อมูลไม่ใช่ความรู้ของบุคคลอีกต่อไป แต่เป็นความรู้ของชุมชน เพื่อส่งเสริมการแบ่งปันความรู้แบบเปิดกว้างมากขึ้น

ต่อไปนี้คือแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดบางส่วนที่เราแนะนำ รวบรวมความรู้ของทีมของคุณไว้ในที่เก็บข้อมูลหรือระบบเดียว เมื่อเทคโนโลยีในที่ทำงานพัฒนาขึ้น ความรู้ก็มีอยู่ในที่ที่แตกต่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งทางอีเมล ตั๋ว และในใจของสมาชิกในทีมแต่ละคน แม้ว่าการเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่นี่เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งในกลยุทธ์การจัดการความรู้ที่กว้างขึ้น

เพิ่มความโปร่งใสด้วยข้อมูลที่เปิดเผยและแบ่งปัน แทนที่จะเก็บเอกสารไว้ในอีเมลและโฟลเดอร์ หรือล็อกการตั้งค่าสิทธิ์ ให้ลงทุนในเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงและรวมองค์ความรู้ ความรู้ควรเป็นเรื่องง่ายสำหรับทั้งองค์กรในการค้นหา

ค้นหา และสร้าง ส่งเสริมให้สมาชิกในทีมแก้ไขเพจร่วมกัน ให้ข้อเสนอแนะผ่านความคิดเห็นแบบอินไลน์ หรือเพื่อนร่วมทีมที่กล่าวถึงเพื่อให้เพื่อนตรวจสอบ ทำให้มองเห็นผลงานได้ด้วยโปสเตอร์โครงการ สำหรับโครงการริเริ่มสำคัญๆ

ทุกรายการ ให้สร้างโปสเตอร์โครงการเพื่อแบ่งปันเป้าหมายและความคืบหน้าของคุณกับทีมที่เหลือและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นี่เป็นเอกสารที่มีชีวิตและเข้าถึงได้ซึ่งสามารถช่วยคุณสำรวจขอบเขตของปัญหา กำหนดขอบเขต และรับคำติชม

การเน้นบทความสั้น ๆ หรือคำตอบ เอกสารที่ใช้ร่วมกันไม่ได้หมายถึงความเข้าใจร่วมกันเสมอไป แทนที่จะสร้างเอกสารที่ยาวและกว้างขวาง ให้ปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะกับทีมของคุณ

ทีมทั้งหมดของคุณสามารถเรียนรู้และซึมซับข้อมูลได้เร็วขึ้นเมื่อบริโภคอย่างรวดเร็ว ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย และเผยแพร่ในเวลาที่เหมาะสม ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการแบ่งปันความรู้ ให้รางวัลแก่ผู้มีส่วนร่วมอันดับต้นๆ ด้วยโปรแกรมการยกย่องอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งให้ความสำคัญกับทั้งคุณภาพและปริมาณ ทีมผู้นำของคุณสามารถเป็นตัวอย่างที่ดีได้ด้วยการให้ข้อมูลเช่นการอัปเดตที่สำคัญขององค์กรเป็นประจำ พวกเขายังสามารถผลักดันพนักงานไปที่เครื่องมือของคุณและใช้เครื่องมือของคุณเพื่อโต้ตอบกับทีมได้โดยตรง

การสร้างกลยุทธ์การจัดการความรู้ที่ประสบความสำเร็จ การจัดการความรู้ถือเป็นความรับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าคุณจะติดตั้งระบบแล้ว

ก็ยังมีวงจรอย่างต่อเนื่องในการเพิ่มเนื้อหาใหม่และกำจัดรายการที่ล้าสมัย รวมถึงการค้นพบความรู้ที่ซ่อนอยู่ ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างกลยุทธ์การจัดการความรู้ที่ประสบความสำเร็จสำหรับองค์กรของคุณ

ระบุสถานการณ์ทางธุรกิจของคุณและพัฒนาวัตถุประสงค์และเป้าหมาย เมื่อดำเนินการวิเคราะห์ภายในองค์กรของคุณเป็นครั้งแรก คุณจะสามารถจัดระบบการจัดการความรู้ให้สอดคล้องกับเป้าหมายของคุณได้

เตรียมองค์กรของคุณให้พร้อมสำหรับการนำไปปฏิบัติ รับรู้ว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ มันจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม

 จัดตั้งทีมจัดการความรู้ อาจดูเหมือนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คุณจะแปลกใจที่องค์กรต่างๆ มักลืมสิ่งนี้ ขั้นตอนแรกในการนำกระบวนการใหม่ไปใช้คือการให้ใครสักคนมารับผิดชอบ

ดำเนินการตรวจสอบความรู้ ดูว่าความรู้ใดบ้างที่ฝังอยู่ และฝังไว้ที่ไหน ค้นหาสิ่งที่ขาดหายไป และเริ่มเตรียมการสำหรับสิ่งที่คุณต้องการทำ สำหรับความรู้โดยปริยาย กระบวนการนี้ต้องใช้การสังเกต การสัมภาษณ์ หรือการสำรวจผู้เชี่ยวชาญ

 

สนับสนุนโดย    ฮอยอาน่า

เนื่องจากคนส่วนใหญ่ จำเป็นที่จะต้องใช้ชีวิตแข่งกับเวลา จึงทำให้หลาย ๆ คนนั้นพลาดที่จะต้องรับประทานอาหารมื้อเช้ากันอยู่บ่อย ๆ

ซึ่งรู้หรือไม่ว่า มื้อเช้า เป็นมื้อที่สำคัญต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก เพราะเป็นมื้อแรกของวันที่ดีต่อร่างกาย สมอง และการทำงานของร่างกายของเราเป็นอย่างมาก เพราะถึงแม้ว่าเราจะใช้ชีวิตเร่งรีบมากขนาดไหนก็ตาม แต่มื้อเช้าก็ไม่ควรที่จะอดอย่างเด็ดขาด

เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายของเราขาดมื้อเช้าบ่อย ๆ จะทำให้ร่างกายทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และทำให้สมองของเรานั้น ทำงานได้ไม่เต็มที่ ฉะนั้น มื้อเช้า จึงเป็นมื้อที่สำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะจสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกาย สมอง สามารถทำให้เรานั้นคิดงานได้อย่างราบรื่น

แถมยังไม่ทำให้ในระหว่างวัน เรารู้สึกหิวอีกด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่มองว่า มื้อเช้าไม่ได้สำคัญต่อร่างกายมากขนาดนั้น วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่า ประโยชน์ของการทานมื้อเช้าที่หลาย ๆ คนมองข้ามไปนั้น จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย 

1.มื้อเช้าช่วยบำรุงสมอง

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า มื้อเช้า เป็นมื้อที่สำคัญสำหรับการทำงานของสมองเป็นอย่างมาก เพราะสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและสมองได้ ช่วยทำให้เราสามารถคิดงานออกได้อย่างราบรื่น

แถทยังช่วยให้สมองของเรานั้นสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่อีกด้วย หากมีเวลาว่างเพียงเล็กน้อย เราก็ควรที่จะให้ความสำคัญกับมื้อเช้า จะยิ่งดีต่อสุขภาพร่างกายของเรา 

2.มื้อเช้าช่วยลดโรคนิ่ว

คนส่วนใหญ่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคนิ่วกันสูงมาก ซึ่งโรคนี้เกิดได้จากการที่เราไม่ชอบทานอาหารเช้า เพราะจะยิ่งทำให้ไขมันในถุงน้ำดีของเราเกิดการสะสมมากขึ้น และก่อให้เกิดก้อนนิ่วขึ้นได้ ฉะนั้น การที่เราไม่ชอบทานมื้อเช้า

จะยิ่งทำให้ร่างกายของเราเมโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ได้สูงมาก และการทานมื้อเช้าเป็นประจำ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรครี้ได้นั่นเอง 

3.มื้อเช้าช่วยลดโรคหัวใจ

รู้หรือไม่ว่า หลังตื่นนอน หรือในช่วงเวลาเช้า ๆ นั้น ร่างกายของเราจะมีปริมาณน้ำตาลในเลือดที่ต่ำมาก ๆ แถมเลือดของเรายังมีความเข้มข้นที่สูงมาก ๆ อีกด้วย จึงถึงเป็นหนึ่งสาเหตุที่อาจทำให้ร่างกายของเราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้ง่าย

เนื่องจากเกิดการอุดตันของหลอดเลือดได้ ฉะนั้น การที่เราทานมื้อเช้า ก็มีส่วนช่วยในการลดความเข้มข้นของเลือดได้ ซึ่งจะทำให้เลือดของเราจางลงได้ จนไม่ทำให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือดนั่นเอง 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก

รู้หรือไม่ว่า การที่เราระบบคุ้มกันโรคที่ดีและแข็งแรง อาจจะช่วยป้องกันร่างกายของเราจากการเป็นโรคร้ายต่างๆได้ง่าย

ซึ่งแน่นอนว่าการที่ระบบภูมิคุ้มกันโรคของเราจะทำงานก็ต่อเมื่อ ร่างกายของเรามีสิ่งแปลกปลอมเกิดขึ้น หรืออาจเกิดการอักเสบต่างๆภายในร่างกายเกิดขึ้นซึ่งจะทำให้ระบบคุ้มกันของเราเริ่มทำงานนั่นเอง

ซึ่งแน่นอนว่าในสมัยปัจจุบันนี้หลายคนคงอยากที่จะมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงกันทั้งนั้น เราจึงจะเห็นได้ว่าหลายหลายคนเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายกันมากขึ้นเรื่อยเรื่อยอย่างต่อเนื่อง แถมยังหันมาให้ความสำคัญกับการเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย

เพราะสิ่งต่างๆเหล่านี้จะสามารถช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงและทำให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อร่างกายของเราเกิดความผิดปกติขึ้น ฉะนั้น สำหรับใครที่กำลังหันมาเริ่มต้นดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง

และอยากที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรงไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่างๆได้ง่าย

วันนี้เราก็จะมาแนะนำอาหารที่หากเราทานเป็นประจำจะสามารถช่วยต้านการอักเสบช่วยป้องกันการเกิดโรคร้ายบางโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะมีอาหารประเภทไหนกันบ้างไปดูกันเลย

• น้ำมันปลา หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว

ว่าน้ำมันปลาเป็นหนึ่งในอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะในน้ำมันปลานั้นจะมีกรดโอเมก้าสาม ที่มีคุณสมบัติสามารถช่วยต้านการอักเสบภายในร่างกายของเราได้ อีกทั้งยังอุดมไปด้วยสารอาหารอื่นๆที่ดีต่อร่างกาย

หากเราทานอาหารประเภทนี้เป็นประจำนอกจากจะช่วยต้านการอักเสบได้แล้วยังถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยดีดีที่จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคแข็งแรงและป้องกันการเกิดโรคร้ายได้

• องุ่น เนื่องจากองุ่นเป็นหนึ่งในผลไม้

ที่สามารถหาทานกันได้ง่ายแถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกายเยอะมากๆอีกด้วย เข้าในองุ่นจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย สารอาหารที่ช่วยสามารถต้านอนุมูนอิสระ และสารอาหารที่สามารถช่วยต้านการอักเสบได้

ซึ่งหากใครที่อยากลดอาการอักเสบภายในร่างกายหรืออยากที่จะส่งเสริมสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรง ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทานองุ่นเป็นประจำถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่จะทำให้ร่างกายปลอดภัยจากการเป็นโรคร้ายได้

• ขมิ้น เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูมากมาก

แถมยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยต้านการอักเสบภายในร่างกาย และสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคร้ายที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายของเราได้อีกด้วย นอกจากนี้ขมิ้นซึ่งถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยดีดีที่จะสามารถช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกายหลังจากการออกกำลังกาย

และช่วยบรรเทาความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใครที่อยากมีระบบภูมิคุ้มกันโรคที่แข็งแรงการนำขมิ้นมาประกอบอาหารถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยดีดีที่จะทำให้ร่างกายของเราไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายได้ง่าย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย   เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก

เนื่องจากการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่นั้นเต็มไปด้วยความเครียดความกดดันต่างๆมากมายจากการทำงานการเรียนหรือแม้แต่เรื่องส่วนตัวเองก็ตาม

ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่ร่างกายของเรามีความเครียดที่สะสมเยอะ ถือเป็นหนึ่งในปัญหาที่อาจทำให้สุขภาพร่างกายของเราย่ำแย่และเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่างๆได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ดังนั้นการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีโดยการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอหรือแม้แต่การเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์อยู่เป็นประจำ ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่หลายๆคนนั้นไม่ควรมองข้าม

เพราะถึงแม้ว่าเราจะทำงานหนักหรือใช้ชีวิตมากแค่ไหนก็ตามเราก็ควรที่จะให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดความเครียดทำให้ตนเองนั้นผ่อนคลายและอารมณ์ดีขึ้น เพื่อให้การใช้ชีวิตในประจำวันเต็มไปด้วยประสิทธิภาพมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมอารมณ์ของตนเอง เพราะชีวิตเต็มไปด้วยความเครียดและความกดดันต่างๆ จนส่งผลกระทบทางด้านอารมณ์นั่นเอง

ฉะนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับง่ายๆในการเลือกรับประทานอาหารอย่างไรให้เราอารมณ์ดี และทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่น จะมีอาหารประเภทไหนกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

เน้นทานผักและผลไม้เป็นประจำ แน่นอนว่าผักและผลไม้ในสมัยนี้เต็มไปด้วยสารอาหารที่ดีได้มีประโยชน์ต่อร่างกายยิ่งได้ลองรับประทานเป็นประจำนั้นจะทำให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารได้เพียงพอและช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบต่างๆได้

เพราะในผักผลไม้ นั้น จะอุดมไปด้วยแร่ธาตุ และใยอาหาร จึงสามารถทำให้สุขภาพสมองของเราได้รับสารอาหารที่ดี และทำให้เรารู้สึกอารมณ์ดีขึ้นในระหว่างการรับประทานนั้นเอง

เลือกทานธัญพืชไม่ขัดสี อาหารชนิดนี้เรียกได้ว่าเป็นอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสีนั้นจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีและมีประโยชน์ที่จำเป็นต่อร่างกายของเราหากเรารับประทานเป็นประจำ

นอกจากจะส่งผลกระทบให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่ดีได้นั้นยังทำให้ร่างกายของเรา อารมณ์ดีและทำให้สมองทำงานอย่างราบรื่นได้นั่นเอง

การดื่มน้ำให้เพียงพอ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าน้ำถือเป็นหนึ่งใน ส่วนประกอบสำคัญที่ดีต่อร่างกายยิ่งเราดื่มน้ำเยอะๆจะทำให้ร่างกายของเราชำระล้างสารพิษที่ตกค้างภายในร่างกายออกมาได้ แถมยังส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของเรา ทำให้ร่างกายของเราได้รับพลังงานที่ดีได้อย่างเต็มที่

ดังนั้นสำหรับใครที่ มีความเครียดอยู่บ่อยๆจากการทำงานหรือแม้แต่การเรียนการที่เราดื่มน้ำเยอะๆมากขึ้นเป็นประจำนั้นนอกจากจะทำให้ร่างกายของเราดีขึ้นแล้วยังส่งผลให้เรารู้สึกอารมณ์ดีขึ้นได้อีกด้วย

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังคนหูหนวก

สำหรับคนที่อ้วนอยู่แล้วแต่ก็ไม่สามารถลดน้ำหนักได้เลย แต่พอตัวเองรู้ว่าจะมีงานที่จะต้องใส่ชุดสวยๆก็กังวลว่าจะต้องทำอย่างไร เพราะอ้วน และก็ให้มาเริ่มลดน้ำหนักคงยากกว่าจะผอมหุ่นดีได้ ใครที่มีปัญหาเช่นนี้ เราแนะนำว่าคุณมาอ่านบทความที่เหมาะสมกับคุณแล้ว

เพราะเรามีเคล็ดลับดีๆมาฝาก ในการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน ลดให้ทันวันงานแต่การลดนี้สามารถใช้ได้แค่ระยะสั้นเท่านั้นนะ ไม่สามารถทำระยะยาวได้ เพราะอาจจะเสี่ยงกลับมาอ้วนกว่าเดิม

 

ลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน ลดน้ำหนักระยะสั้น สามาถทำได้ดังนี้

1.งดกินแป้ง

เราควรที่จะเริ่มจากการงดทานแป้ง โดยเฉพาะคนที่ชอบทานข้าว ขนมปัง อาหารจำพวกแป้งทั้งหลาย งดไปก่อนเลย โดยจะเห็นว่าแป้งให้พลังงานที่มากกว่าอันอื่น ดังนั้นที่เรางดแป้งให้ได้มากที่สุด โดยทานน้อยที่สุดจะช่วยได้ อย่างน้อยก็ควรกินไม่เกิน 1 กำมือต่อมื้อนะดังนั้นควรงดหรือทานให้น้อยที่สุด จำพวกเบอเกอรี่ควรงดไปเลย ไม่ควรนำมาทานในช่วงนี้

2.งดเครื่องดื่มที่เป็นของหวานต่างๆ

สิ่งที่เราคิดในเครื่องดื่มที่เป็นของหวานทั้งหลาย ก็คือชา กาแฟ น้ำอัดลมก็ด้วยนะ เพราะน้ำอัดลมนั้นมีน้ำตาลและอื่นๆที่ผสมอยู่มาก ซึ่งทำให้อ้วนได้ง่ายเลยแหละ หรือควรเช็คดูจากฉลากโดยสังเกตุว่าที่ใส่น้ำตาลนั้นเราก็ห่างหรือไม่กินได้เลยก็ยิ่งดี

ซึ่งแน่นอนว่าถ้าคุณทำได้ก็ควรที่จะทำนั่นก็คือการดื่มน้ำเปล่าอย่างเดียว  เพราะน้ำเปล่านั้นดีมีประโยชน์ดื่มมากแค่ไหนก็ไม่อ้วนและยังช่วยในเรื่องของการที่จะทำให้ผิวของคุณสดใสขึ้นด้วย ดังนั้นหันมาทานน้ำเปล่ากันดีกว่า งดน้ำอื่นๆที่ไม่มีประโยชน์กันเถอะ

3.นอนหลับให้เพียงพอ

การนอนหลับเราพูดบ่อยมาก ว่ามันสำคัญพอๆกับการทานอาหาร การออกกำลังกาย ดังนั้นก็อดนอนจะทำให้คุณนั้นอ่อนเพลีย มีใบหน้าโทรม ดังนั้นหากออกกำลังกายประมาณหนึ่ง เลือกทานอาหารที่ดี แนะนำว่าการนอนที่จะส่งผลทำให้ผอมเร็ว

เพราะการนอนคือการเผาผลาญไขมันได้อย่างหนึ่ง  หูตึงรักษา   ดันนั้นนอนให้หลับ นอนให้ไว เชื่อว่าสูตรนี้ได้ผลชัวร์

4.เลือกกินผักผลไม้ให้ถูกต้อง

การกินผักหรือผลไม้มันก็ดีแต่คุณจำเป็นที่จะต้องเลือกกินให้ถูกต้องด้วย เพราะผลไม้บางชนิดก็มีน้ำตาลสูง ดังนั้นต่อให้ทำครบมาทุกขั้นตอนแต่ดันไม่รู้เรื่องการเลือกทานผลไม้ยังไงก็ไม่ผอมนะ ผลไม้บางชนิดถึงแม้ว่าจะเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติก็ตามแต่ทานมากก็ไม่ดี ดังนั้นเลือกทานผลไม้ที่ย่อยง่าย ไม่มีน้ำตาล จะเป็นผลที่ดีกว่า ลองทำดูนะ

สำหรับ Balay Atipan ผู้ให้บริการดูแลบ้านในฟิลิปปินส์ สิ่งที่เริ่มต้นจากเป็นวิธีการดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ได้พัฒนามาเป็นบริการใหม่ที่ให้การดูแลระดับโรงพยาบาลแก่ผู้ป่วยเฉียบพลันและเรื้อรัง “Balay Atipan” ย่อมาจาก Home Care ใน Ilonggo

ซึ่งเป็นภาษาที่พูดในจังหวัด Negros Occidental ซึ่งดำเนินธุรกิจอยู่ แนวคิดสำหรับบาไล อติปันเกิดขึ้นจากความจำเป็นเร่งด่วนในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ในช่วงเวลาที่โรงพยาบาลกำลังดิ้นรนกับจำนวนผู้ป่วยอย่างล้นหลาม ดร.จอห์น อเลฮาโน ผู้อำนวยการด้านการแพทย์กล่าว

หลังการแพร่ระบาด ปัจจุบันบริการดังกล่าวให้บริการผู้ป่วยจำนวนมากที่ต้องการรับการดูแลที่บ้านอย่างสะดวกสบาย

จัดตั้งบริการ ‘โรงพยาบาลที่บ้าน’ การดูแลสุขภาพที่บ้านถือเป็น “การเปลี่ยนกระบวนทัศน์” สำหรับทั้งผู้ป่วยและผู้ให้บริการ ดร.อเลฮาโนกล่าว ด้วยแพทย์ประมาณ 9 คนและพยาบาลประมาณ 20 ถึง 25 คน Balay Atipan สามารถดูแลผู้ป่วยได้ในสภาวะต่างๆ ตั้งแต่โรคปอดบวมไปจนถึงโรคไต หรือผู้ที่ต้องการการดูแลโดยใช้เครื่องช่วยหายใจ

การผ่าตัดใส่ท่อช่วยหายใจ การตรวจติดตามโรคเบาหวาน หรือการดูแลแบบประคับประคอง หากจำเป็น สามารถเรียกผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ เช่น โรคหัวใจ เนื้องอกวิทยา และโรคไตมาเยี่ยมผู้ป่วยที่บ้านได้

ผู้ป่วยจะสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้ ตามความจำเป็น เช่น เครื่องผลิตออกซิเจน ปั๊มแช่ ยาหยดทางหลอดเลือดดำ ควบคู่ไปกับอุปกรณ์ติดตามผู้ป่วยตามปกติ เช่น เครื่องตรวจวัดความดันโลหิต และเครื่องวัดระดับน้ำตาล “โดยพื้นฐานแล้ว เราจำลองการจัดวางและอุปกรณ์ของหอผู้ป่วยในโรงพยาบาลในบ้านของผู้ป่วย” ดร.อเลฮาโนกล่าว

โดยให้ภาพรวมของการบริการ โดยอธิบายว่าเมื่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโปรแกรมแล้ว แพทย์ทั่วไปจะไปเยี่ยมพวกเขาเพื่อทำความเข้าใจอาการของพวกเขา

และส่งต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญหากจำเป็น ผู้ป่วยสามารถเลือกได้ว่าจะมีพยาบาลเฉพาะทางที่สามารถดูแลข้างเตียงได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือผู้ดูแลที่สามารถช่วยเหลือพวกเขาในการทำงานและกิจกรรมประจำวันได้ พวกเขายังสามารถจัดให้มีการบำบัดทางกายภาพหรือการพูดที่บ้านได้

พยาบาลจะอัพเดทแผนภูมิผู้ป่วย สัญญาณชีพ และความคืบหน้าในระบบเวชระเบียนออนไลน์เป็นประจำ ซึ่งแพทย์สามารถติดตามได้อย่างง่ายดาย ในกรณีที่ต้องมีการทดสอบในห้องปฏิบัติการ “เรามีข้อตกลงกับโรงพยาบาลระดับอุดมศึกษาใกล้เคียงเพื่อใช้บริการเสริม เช่น ห้องปฏิบัติการและการเอ็กซเรย์เคลื่อนที่ หากจำเป็น” ดร.อเลฮาโนอธิบาย “

เรายังมีพันธมิตรรถพยาบาลและการขนส่งบุคคลที่สามซึ่งสามารถส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลเหล่านี้ได้ หากอาการของพวกเขาแย่ลงและจำเป็นต้องได้รับการดูแลที่เพิ่มขึ้น”

ขาดพยาบาลที่ขัดขวางการเติบโตของการดูแลที่บ้าน

นับตั้งแต่เปิดตัว Balay Atipan ได้ดูแลผู้ป่วยประมาณ 350 ราย โดยมีผู้ป่วยประมาณ 5 ถึง 10 รายที่อยู่ภายใต้การดูแลในแต่ละครั้ง ดร.อเลฮาโนเผยว่าจำนวนผู้ป่วยสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 20 รายในช่วงวิกฤตสามเหลี่ยม มีศักยภาพในการเติบโตอย่างชัดเจนในพื้นที่การดูแลที่บ้าน เนื่องจากการรับรู้และความสนใจเพิ่มขึ้น

ผู้ที่สนใจในเมืองอื่นๆ เช่น เมืองอิโลอิโลที่อยู่ใกล้เคียง และแม้แต่เมืองเซบูและมะนิลา ก็ได้ติดต่อกับ Balay Atipan เพื่อสำรวจการขยายขนาดและขยายสาขาของบริการ แต่พวกเขาต้องเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญบางประการในการขยายขนาดบริการ โดยหลักๆ ในแง่ของความซับซ้อนด้านลอจิสติกส์ รวมถึงการขาดแคลนพยาบาลอย่างเฉียบพลัน

การอพยพของพยาบาลชาวฟิลิปปินส์ออกไปทำงานในประเทศอื่นเพื่อรับค่าจ้างหรือสภาพการทำงานที่ดีขึ้นได้รับการบันทึกไว้เป็นอย่างดี คาดว่าปัจจุบันประเทศเผชิญกับช่องว่างพยาบาล 127,000 คน ดร.อเลฮาโนตั้งข้อสังเกตว่าโรงพยาบาลบางแห่งในภูมิภาคจำเป็นต้องลดความจุเตียงลง 1 ใน 3 หรือครึ่งหนึ่ง

เนื่องจากขาดพยาบาลประจำโรงพยาบาล ในขณะเดียวกัน ผู้สำเร็จการศึกษาพยาบาลใหม่คือ “ผู้สำเร็จการศึกษาด้านโรคระบาด” ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรส่วนใหญ่ทางออนไลน์ และแทบไม่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยเลย พวกเขาต้องการพยาบาลอาวุโสคอยชี้แนะและฝึกอบรมพวกเขาเพื่อให้การดูแลที่มีคุณภาพในสภาพแวดล้อมจริง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ถ่านเครื่องช่วยฟัง