เด็กถูกผลักและสาดน้ำใส่สาเหตุเพราะไปจับรถของชาวบ้าน 

        เมื่อวันที่ 21 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2563 ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งมีการโพสต์ Facebook บอกเล่าเรื่องราวถึงเรื่องที่ตนเองและลูกสาวได้เจอมาในช่วงที่ไปหาหมอที่คลินิกเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช

ซึ่งเขาเล่าเหตุการณ์ว่าเขาได้พาลูกสาวไปหาหมอที่คลินิกแต่ระหว่างที่รอคิวกันอยู่นั้นลูกสาวแล้วก็ภรรยาของเขาออกมานั่งรอคิวอยู่ที่ด้านหน้าของคลินิกตรงม้าหินอ่อนซึ่งตรงนั้นมีรถเก๋งสีดำจอดอยู่ 1 คันด้วยความซุกซนของเด็กลูกสาวของเขาจึงเอามือไปจับที่รถเก๋งคันสีดำ

ดังกล่าวหลังจากนั้นไม่นานก็มีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งมาที่ลูกสาวของเขาและถักลูกสาวของเขาล้มลงหลังจากที่เด็กล้มลงแล้วมีสาวคนดังกล่าวยังไปเอาน้ำมาสาดใส่ทำให้ถูกลูกของเขาด้วยซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับเขาเป็นอย่างมากก็ถือว่าผู้หญิงที่เป็นเจ้าของรถนั้น

ทำเกินกว่าเหตุจริงๆก็คิดว่าผู้หญิงคนนั้นอาจจะกลัวคิดว่าลูกของเขาอาจจะมีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าก็ได้แต่การทำเช่นนี้ถือว่าเป็นการทำที่เกินไปมากๆเลยเขาระบุใน Facebook ส่วนตัวว่าโมโหจนลืมพาลูกหาหมอเลยทีเดียวสรุปวันนั้นไปรอคิวแต่ก็ไม่ได้ไปหาหมอหลังจากที่มีการแชร์พอดีออกมาก็ได้มีชาวโซเชียลมาวิพากษ์วิจารณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ครั้งนี้เป็นอย่างมากซึ่งหลายคนมองว่าผู้หญิงเจ้าของรถนั้นทำเกินกว่าเหตุไปจริงๆถึงแม้ตัวเองอาจจะกลัวเรื่องของการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าแต่ก็ไม่ควรทำบุญแรงกับเด็กมากขนาดนั้นที่สำคัญการที่เอาน้ำมาสาดใสถือว่าเป็นการดูถูกคนอื่นเป็นอย่างมาก

      ในช่วงที่ไวรัสมีการระบาดนั้นจะทำให้เราเห็นความเป็นตัวตนของคนอื่นมากขึ้นบางคนแสดงออกนิด้าดีแต่บางคนหรือแม้แต่หลายคนก็แสดงออกในด้านของความเห็นแก่ตัวหญิงที่หญิงสาวเจ้าของรถมีการกระทำอยู่เพียงเพราะแค่เด็กไปจากรถเท่านั้นที่จริงถ้าหากกลัวว่าจะติดเชื้อไวรัสเวลาที่เราจับรถแล้ว

ก็หาแอลกอฮอล์มาเช็ดบริเวณงั้นเสียก่อนหรือเราอาจจะล้างแอลกอฮอล์ที่มือก่อนที่จะมีการจับรถเราก็จะไม่ติดเชื้อแล้วหลังจากนั้นเราก็นำรถไปล้างและควรบอกเด็กดีว่าไม่ให้จับรถไม่ควรมากระชากพร้อมทั้งเอาน้ำมาราดใส่เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขานั้นแตกต่างและต่ำต้อยมากแค่ไหน

 

สนับสนุนโดย    หาเงินจากหวยหุ้น