การมีสุขภาพที่ดีหาซื้อไม่ได้ หากอยากมีสุขภาพที่ดีก็ต้องเริ่มต้นอย่างถูกวิธี มีอะไรบ้าง
1. กินอาหารที่มีประโยชน์
เปลี่ยนเมนูเดิมๆที่แสนจะน่าเบื่อของคุณด้วยการเพิ่มโปรตีนดีๆอย่างเนื้อปลา ไม่ว่าจะเป็น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ไข่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ธัญพืชและถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ เพราะนอกจากจะย่อยง่ายแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อทุกเพศทุกวัย
2. ดื่มน้ำให้มากเพื่อสุขภาพที่ดี
เพราะในร่างกายของเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบที่มากถึง 55-75 เปอร์เซนต์ของน้ำหนักตัวเลยทีเดียว การดื่มน้ำนอกจากจะช่วยไม่ให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำแล้วยังส่งผลดีต่อระบบขับถ่าย การไหลเวียนโลหิต รวมถึงการเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว การดื่มน้ำที่ดีควรเริ่มต้นที่ 8-12 แก้วต่อวัน หรือหากจะให้ได้ผลที่ดียิ่งขึ้นควรดื่มให้ได้อย่างน้อยวันล่ะ 2 ลิตร
3. ทานผักผลไม้ให้ได้หลากหลายสี
เพราะในผักและผลไม้บางชนิดบางสี จะให้คุณค่าสารอาหารแก่ร่างกายที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น สีแดงจากมะเขือเทศ แตงโม, สีส้มจากแครอท ส้ม, สีเขียวได้จากผักคะน้า เป็นต้น การเลือกทานผลไม้ที่หลากหลายนอกจากจะช่วยเพิ่มสีสันแล้วยังช่วยให้การรับประทานไม่น่าเบื่ออีกด้วย
4. กินให้เป็น
ด้วยการหลีกเลี่ยงอาหารประเภทของทอด ของมัน หรืออาหารที่อุดมไปด้วยไขมัน และหันมาทานอาหารประเภท ต้ม นึ่ง อบ ย่าง จะดีที่สุด
5. กินมื้อเช้าช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อม
การรับประทานอาหารเช้านอกจากจะช่วยให้ร่างกายสดชื่น ยังช่วยต่อต้านการแข็งตัวของเลือด เพราะในตอนเช้าเลือดในร่างกายของเราจะแข็งตัวได้ง่ายกว่าปกติ ทำให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองได้น้อยลงซึ่งก่อให้เกิดโรคสมองเสื่อม
6. เลี่ยง หวาน เค็ม
อาหารที่มีรสเค็มจัดหรือหวานจัดนั้น นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต เป็นต้น
7. งดการดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกจากจะทำให้เกิดภาวะร่างกายขาดน้ำแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันสูง โรคตับแข็ง
8. ลดละเลิก สูบบุหรี่
หลายคนมักมีข้ออ้างของการสูบบุหรี่ว่าช่วยคลายเครียด ผ่อนคลายสมอง แต่แท้ที่จริงแล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะการสูบบุหรี่ใน 1 มวน ทำให้อายุสั้นลง 7 นาที และยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคปอด โรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจ โรคมะเร็งต่างๆ ไม่เพียงเท่านี้ยังทำร้ายคนรอบข้างตัวของคุณอีกด้วย ดังนั้นยิ่งลดหรือเลิกสูบเร็วเท่าไหร่ยิ่งดีต่อตัวคุณเท่านั้น
9. หาเวลาผ่อนคลาย
ทุกวันนี้ ชีวิตในแต่ละวันของเรามักจะเจอแต่ความวุ่นวาย ความเครียดและความกดดันจากสิ่งต่างๆรอบตัว ดังนั้นเราควรหาเวลาเพื่อผ่อนคลายความเครียดลงบ้างด้วยการทำสมาธิ หรือการออกไปเดินเล่นสวนสาธารณะ หยุดคิดเรื่องต่างๆลงบ้าง ปล่อยความวุ่นวายทั้งหมดออกไป
10. พักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนเป็นวิธีการที่ดีอีกวิธีหนึ่ง ที่นอกจากจะช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าความเครียดต่างๆได้แล้ว ยังดีต่ออวัยวะภายในร่างกายของเราอีกด้วย เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ ร่างกายของเราก็จะสดชื่น สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยจดจำรายละเอียด และอย่างอื่นได้ดีขึ้นตามลำดับ
11. ปล่อยวางซะบ้าง
หลายๆคนมักจะทุ่มเทกับการทำงานเป็นอย่างมาก บางคนถึงกับหอบงานมาทำที่บ้านด้วยก็มี ซึ่งหากทำแบบนี้นานวันเข้าร่างกายของเราก็จะเกิดความเครียดและบั่นทอนสุขภาพลงในที่สุด และยังเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆได้ง่าย ดังนั้น คุณควรจัดสรรเวลาให้ดี เมื่อถึงเวลาเลิกงานก็ควรหยุดพักซะบ้าง พรุ่งนี้ค่อยทำก็ไม่สาย
12. ใส่ใจกับน้ำหนักอย่าให้เกิน
การควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีแล้ว ยังช่วยลดการเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน โรคหัวใจ โรคมะเร็งลำไส้
13. ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้สุขภาพดีไม่ว่าจะเป็น การวิ่ง การเดิน การเต้นแอโรบิก นอกจากจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายความเหนื่อยล้าแล้ว ยังช่วยบริหารปอด ทำให้หัวใจสูบฉีดดีขึ้น หัวใจแข็งแรงขึ้น การไหลเวียนเลือด รวมถึงระบบต่างๆของร่างกายดีขึ้นได้อีกด้วย เมื่อภูมิต้านทานในร่างกายของเราดีขึ้น โรคภัยก็จะไม่ถามหา
14. หลีกเลี่ยงแสงแดด
แสงแดดเป็นตัวการทำร้ายผิวของเราได้เป็นอย่างดี ชนิดที่ว่าตัวคุณเองยังคาดไม่ถึงเช่นกันค่ะ ดังนั้น หากคุณไม่อยากเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง ฝ้า กระ จุดด่าง ควรจะหลีกหนีให้ไกลจากแดดตัวร้ายไว้เลยด้วยการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ สวมเสื้อแขนยาว พกร่มติดตัวไว้ก็ดีนะคะ
15. ขยับตัวอยู่บ่อยๆ
การเคลื่อนไหว ขยับเขยื้อนตัวอยู่เสมอๆ นอกจากจะช่วยคลายอาการท้องผูกแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนและโรคหลอดเลือดหัวใจได้ดีกว่าคนไม่ออกกำลังกายเลย
16. หายใจเข้าลึกๆ
การหายใจเข้าลึกๆจะช่วยให้ปอดขยายมากขึ้น ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพียงพอ หลายๆคนมักจะไม่ค่อยสังเกตว่า ในทุกๆวันเรามักจะหายใจสั้นๆเนื่องจากสภาพอากาศ หรือที่ทำงานมีขนาดเล็กหรือทึบเกินไป ดังนั้น ลองมาหายใจเข้าลึกๆกันดูสิอย่างน้อยค่อยๆฝึกวันล่ะ 10 ครั้ง หายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องแฟบ แบบถึงจะเรียกได้ว่าเป็นการหายใจที่ถูกวิธี
17. หมั่นตรวจเช็คสุขภาพบ้าง
หลายๆคนมักจะยุ่งวุ่นวายกับการทำงานตั้งแต่เช้าจรดเย็น โดยที่ไม่ได้ใส่ใจต่อสุขภาพของตัวเองมากนัก ทำให้มักจะเกิดอาการบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น ไข้หวัด ปวดเมื่อยร่างกายต่างๆ ทางที่ดีที่สุดควรจะหมั่นไปตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีควบคู่ไปกับการออกกำลังกายด้วยเช่นกัน