ประกันตนมาตรา 33 มีเฮ  ครม. อนุมัติช่วยช่วงโควิด ให้จ่ายเงินสมทบเพียงแค่เดือนละ 75 บาท

              หากพูดถึงประกันสังคม สำหรับคนที่ทำงานบริษัท  หรือโรงงานต่างๆจะเห็นได้ว่าคนงานเหล่านั้นจะต้องมีการส่งประกันสังคมซึ่งจะเข้าสู่ระบบมาตรา 33   โดย เวลาที่มีการส่งนั้นจะต้องมีการส่งเป็นประจำทุกเดือนและการพิจารณาส่งนั้นจะขึ้นอยู่กับฐานเงินเดือนของแต่ละบุคคล

ซึ่งจะส่งไม่เท่ากันซึ่งวิธีการคิดการหักเงินเข้าสู่ประกันสังคมนั้นลูกจ้างของบริษัทหรือโรงงานต่างๆจะถูกหักจากเงินเดือน 3% เพื่อนำเงินเข้าไปสมทบในประกันสังคมและเมื่อคุณมีอายุครบ 55 ปี เงินที่คุณจ่ายสมทบในแต่ละเดือนนั้นคุณก็จะสามารถนำกลับมาใช้งานภายหลังได้

          และระหว่างที่มีการทำงานอยู่และมีการส่งเงินในประกันสังคมนั้นหากมีอาการเจ็บป่วยคุณก็สามารถใช้สิทธิ์ตามเงื่อนไขของประกันสังคมได้ซึ่งสามารถโทรเช็คสิทธิ์ประกันสังคมหรือจะดูจากเว็บไซต์ของประกันสังคมก็ได้ว่าคุณสามารถใช้สิทธิ์อะไรบ้างจากการส่งเงินประกันสังคมในมาตรา 33

     อย่างไรก็ตามโดยปกติแล้วประกันสังคมนั้นจะต้องมีการหักจากเงินเดือนโดยถ้าเกิดใครก็ตามแต่ที่มีเงินเดือนอยู่ที่ 15,000 บาทก็จะถูกหักประกันสังคมอยู่ที่ประมาณเดือนละ 450 บาทหรือถ้าหากใครมีฐานเงินเดือนอยู่ที่ 13,000 บาทก็จะถูกหักประกันสังคมอยู่ที่ 390 บาทเนื่องจากว่าจะต้องหัก 3 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนทั้งหมดนั่นเอง

     แต่ในขณะนี้เป็นช่วงที่โควิดกำลังมีการระบาดอย่างหนักและเหล่าบรรดาพนักงานหรือเจ้าของบริษัทต่างก็ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสชนิดนี้ ดังนั้นทางด้านคณะรัฐมนตรีจึงได้มีการประชุมปรึกษาหารือการเกี่ยวกับแผนการที่จะช่วยเหลือเหล่าบรรดาลูกจ้างทั้งหลายในช่วงที่กำลังได้รับผลกระทบของการระบาดของไวรัส

ซึ่งบางบริษัทอาจจะมีการลดเงินเดือนของพนักงานลงหรือบางบริษัทอาจจะให้พนักงานหยุดทำงานชั่วคราวและในช่วงนี้ยังเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดีสินค้าขายแพงมากขึ้นดังนั้น  ครม. จึงได้มีการอนุมัติออกมา ในการช่วยเหลือเรื่องของประกันสังคมให้กับลูกจ้างทั้งหลาย

          ซึ่งในขณะนี้สิ่งที่อนุมัติมานั้นก็คือ   ครม. จะช่วยเหลือในเรื่องของการส่งเงินประกันสังคมให้กับลูกจ้างที่เข้าสู่ประกันสังคมมาตรา 33 ด้วยการเปลี่ยนเงื่อนไขการหักเงินเข้าประกันสังคมจากเดิมอยู่ที่ 3 เปอร์เซ็นต์นั้นจะลดให้เหลือเพียงแค่ 0.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นซึ่งระยะเวลาในการช่วยเหลือในครั้งนี้ได้มีผลตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนมีนาคมนั่นก็คือเป็นระยะเวลา 3 เดือน

โดยถ้าคำนวณจากยอดฐานเงินเดือนที่ 15,000 บาทแสดงว่าลูกจ้างที่จ่ายเงินประกันสังคมมาตรา 33 จะจ่ายเงินสมทบจากเดิม 450 บาทเหลือเพียงแค่เดือนละ 75 บาทเท่านั้นเอง หรือถ้าเงินเดือนหมื่นสามพันบาทก็จะจ่ายประกันสัมคม เหลือแค่ 65 บาทเท่านั้น

 

สนับสนุนโดย  หวยลาวจ่ายบาทละเท่าไร

ความแตกต่างกาแฟอาราบิกากับโรบัสต้า

เรามาเริ่มต้นด้วยการทำความรู้จักกับกาแฟกันก่อนว่ากาแฟนั้นมีอะไรกันบ้าง เริ่มจากกาแฟอาราบิก้าและกาแฟโรบัสต้า มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

โดยความแตกต่างของแต่ละสายพันธุ์นั้นจึงทำให้กาแฟแต่ละชนิดนั้นมีรสชาติและกลิ่นที่แตกต่างกันไปนั่นเอง สำหรับกาแฟอาราบิก้านั้นเป็นกาแฟที่สามารถเจริญและเติบโตได้ในที่สูงและมีอากาศเย็นการเพาะปลูกกาแฟชนิดนี้หลักๆจะอยู่บนดอยแล้วก็ที่สูงและมีอากาศหนาวต่างๆ ซึ่งกาฟาราบิก้านั้นจะมีรสชาติที่กลมกล่อมมีกลิ่นหอมและรสชาติ

เมื่อลิ้มรสแล้วนั้นจะไม่ได้มีความเข้มมากนักและเป็นรสชาติที่มีความคงที่ด้วย จะเป็นกาแฟที่ได้รับความนิยมในการดื่มกาแฟมากที่สุดในโลก และมีจุดสังเกตในการดูเมล็ดกาแฟคืออาราบิก้านั้นจะมีทรงเป็นวงรียาวๆ และเส้นผ่าตรงกลางจะมีลักษณะหยัก

ซึ่งจะมีความแตกต่างจากกาแฟโรบัสต้า เพราะว่ากาแฟโรบัสต้านั้นเป็นกาแฟที่สามารถทนทานต่อโลก โดยกาแฟโรบัสต้านั้นจะชอบที่อากาศร้อนชื้นมีฝนตกชุกอย่างสม่ำเสมอ และจุดเด่นของกาแฟโรบัสต้านั้นก็คือเป็นกาแฟที่ให้ความเข้มข้นมากเมื่อได้ลิ้มรสและเป็นกาแฟที่มีคาเฟอีนสูงกว่าแต่รสชาตินั้นจะออกไปทางรสเปรี้ยว

ซึ่งโดยทั่วไปแล้วนั้นกาแฟอาราบิก้าจะนิยมไปทำกาแฟสำเร็จรูปนั่นเองและจุดสังเกตุของเมล้ดกาแฟโรบัสต้าก็คือจะมีลักษณะเมล็ดเล็กและมีลักษณะกลมๆอ้วนๆและเส้นผ้าตรงกลางจะตรง ซึ่งเมล็ดกาแฟทั้งสองชนิดนั้นสามารถสังเกตุได้ง่ายเพราะลักษณะค่อนข้างจะแตกต่างกันเลยทีเดียว

โดยในประเทศไทยนั้นหากเป็นทางภาคเหนือก็จะมีการเพาะปลูกกาแฟอาราบิก้าและกาแฟอาราบ้านั้นยังคงเป็นที่ต้องการของทั้งในประเทศและต่างประเทศทำให้มูลค่าการส่งออกกาแฟอาราบิก้านั้นมูลค่ามหาศาลเลยทีเดียว และถ้าหากเป็นทางภาคใต้ก็จะเพาะปลูกเป็นกาแฟโรบัสต้านั่นเอง

และมีผลผลิตต่อปีมากกว่า 60%เลยทีเดียว และกาแฟบัสต้าที่ได้นั้นก็จะมีการนำไปผลิตเป็นกาแฟสำเร็จรูปและกาแฟกระป๋องเป็นต้น ซึ่งก็เพาะปลูกก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของทั้งสองภาคนั่นเอง 

และรสชาติกาแฟนั้นก็จะขึ้นอยู่ตามความชอบของแต่ละบุคคล เพราะเป็นกาแฟที่ให้รสชาติความแตกต่างกัน

ซึ่งในบางครั้งนั้นกาแฟประเภทโรบัสต้านั้นก็จะมีกลิ่นของรับเบอร์ด้วยหรือเรียกว่ากลิ่นยางไหม้และยังกล่าวกันว่ากาแฟโนบัสต้าที่มีคุณภาพที่ดีนั้นจะมีรสชาติที่อร่อยและกลิ่นหอมกว่ากาแฟอาราบิก้าที่คุณภาพไม่ดีก็ได้

กาแฟทั้งสองชนิดนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันดังนั้นจึงเป็นที่มาของความชอบกาแฟแต่ละชนิดนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  หวยลาวจ่ายบาทละเท่าไร